มีเรื่องเล่าว่าใน ยุคเอโดะ เกี่ยวกับผู้หญิงคนนึงที่โดนปีศาจเข้าสิงช่องคลอดจนมีฟันแหลมคม ที่เรียกกันว่า vagina dentata หรือ ช่องคลอดที่มีฟัน เมื่อเธอได้แต่งงานชายคนรักก็โดนกัดอวัยวะเพศจนขาดจึงทำให้เธอได้ไปขอช่างตีเหล็ก ให้ช่วยทำลึงค์เหล็กเพื่อปราบปีศาจ เมื่อปีศาจกัดฟันร่วงหมด ตั้งแต่นั้นมาจึงได้มีการคาระวะต่อลึงค์เหล็ก และ ช่างตีเหล็ก
และยังมีอีกเรื่องราวของหญิงสาวโสเภณีที่ถือว่ายังไม่เป็นที่ยอมรับในสมัยก่อนเนื่องจากอาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่ผิดบาป ในสมัยก่อนความรู้เรื่องทางการแพทย์ยังมีไม่มากนัก โดยเฉพาะเรื่องป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หญิงสาวจึงไปภาวนาขอพรที่ศาลเจ้าคานามาระ เพื่อขอให้พ้นจากทุกข์ภัย แต่ในปัจจุบันการจัดเทศกาลนี้เพื่อเฉลิมฉลองการเกิด เพิ่มการตระหนักถึงการรู้เรื่องเพศสัมพันธ์และยังรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อ เอชไอวี
ในเทศกาลจะมีการแต่งกายสีสันสดใส สีชมพู โดยจัดขบวนพาเหรดที่ออกแนวแฟนตาซี มีการแห่ขบวน 3 ชุดที่ประกอบไปด้วย
ขบวนแรก ปลัดขิกสีดำ เป็นปลัดขิกซึ่งทำจากเหล็ก ตั้งตระหง่านอยู่ในเกี้ยวเรือสีทอง
ขบวนที่สอง ปลัดขิกสีชมพู ถูกประดับด้วยผ้าลูกไม้สีขาว (ถูกหามด้วยสาวประเภทสอง ในชุดสีชมพู)
ขบวนที่สาม เป็นปลัดขิกไม้ ที่เก่าแก่ที่สุดในพิธี
นอกจากพิธีการต่างๆ ความสนุกอยู่ที่เครื่องแต่งกายของผู้ที่มาร่วมงาน ยังมีของขายมากมาย ตั้งแต่หมวกจู๋ เสื้อจู๋ ไอติมจู๋ ของขายเกี่ยวกับจู๋ ตื่นตาตื่นใจมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลนี้ค่ะ
ใส่ความเห็น