หลายคนคงเคยเห็นเจ้าแม่นางกวักญี่ปุ่น… ไม่ใช่สิ แมวกวัก Maneki-Neko อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเมืองญี่ปุ่น ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ที่นอกเหนือจากจะให้เรื่องโชคลาภ ชีวิตรุ่งเรืองแล้ว ยังมีความน่ารักทำให้บรรดาเหล่าทาสแมวต้องตกเป็นทาสของเจ้าเหมียวเหล่านี้อีกด้วย
เจ้าแมว Maneki-Neko แห่งวัด Gotokuji มีตำนานเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ ในยุคนั้น วัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเล็กๆที่ยังไม่รุ่งเรืองมากและมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบาก แต่ถึงแม้จะลำบากแค่ไหน นักบวชชราคนหนึ่งที่จำวัดอยู่ที่นี่ก็ยังมีน้ำใจคอยเอื้อเฟื้ออาหารแก่ “ทามะ” แมวน้อยที่เขาได้เมตตาเลี้ยงเอาไว้

จนกระทั่งวันหนึ่งในคืนที่หนาวเหน็บ
นักบวชผู้ยากไร้ ไม่มีแม้แต่ใบชาเพื่อที่จะนำมาชงดื่มให้ร่างกายอบอุ่น เศร้าเสียใจในความยากลำบาก ได้ร้องไห้แล้วหลับไป เจ้าทามะแมวน้อย ได้เดินเข้าไปนั่งข้างๆนักบวชแก่ แล้วยกขาหน้าเลียขา ถูหน้าทำความสะอาดร่างกาย ในขณะนั้นฝนก็เริ่มตกหนัก ทำให้เศรษฐีผู้หนึ่งที่กำลังเดินผ่านวัด ต้องไปยืนหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้บริเวณหน้าวัด
ฝนที่ตกแรงขึ้น ประกอบกับมีฟ้าผ่า เศรษฐีจึงพยายามหาที่หลบฝนใหม่ ด้วยความบังเอิญ เขาเหลือบไปเห็นเจ้าทามะที่กำลังเลียเท้า เลียหน้าเลียตาคล้ายกำลังเรียกตนอยู่ จึงเดินเข้าไปหามัน

หลังจากที่เขาเดินออกมาจากใต้ต้นไม้เพียงไม่กี่วินาที ต้นไม้นั้นก็ได้ถูกฟ้าผ่าจนไฟลุกท่วม เศรษฐีจึงรู้สึกขอบคุณเจ้าทามะที่ทำให้เขาพ้นอันตรายเหมือนได้ช่วยชีวิตเขา เขาจึงตอบแทนเจ้าทามะด้วยการช่วยเหลือนักบวชชราผู้เป็นเจ้าของและส่งเสริม บอกต่อให้ชาวบ้านคนอื่นๆ มาร่วมกันทำบุญที่วัดแห่งนี้

จึงทำให้วัด Gotokuji เจริญรุ่งรืองขึ้น ส่วนเจ้าทามะและนักบวชราเอง ก็มีความสุขและไม่ลำบากอีกต่อไป และเมื่อเรื่องราวถูกเล่าขานกันแบบปากต่อปาก จึงทำให้มีการปั้นตุ๊กตาเลียนแบบท่าทางของเจ้าทามะจนมาถึงปัจจุบันจนเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เรียกทรัพย์ และความเจริญรุ่งเรือง

ในปัจจุบันจึ่งทำให้วัด Gotkuji มีตุ๊กตาแมวกวักวางอยู่เต็มวัด เพราะผู้คนมักจะมาขอพร แล้วซื้อตุ๊กตาแมวกลับไปตั้งที่บ้าน เมื่อพรที่ต้องการสมปรารถนา ก็จะนำแมวกลับมาวางคืนที่ “โชฟุคุเด็น” หรือจุดรับของเซ่นไหว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิหารเจ้าแม่กวนอิม

ตุ๊กตาแมวกวักที่นี่ มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 9ซม. จนถึง 30ซม. และจะไม่ถือเหรียญ เพราะมีแนวคิดที่ว่า โชคลาภนั้นย่อมมาจากการกระทำนั่นเอง เป็นกุศโลบายให้ผู้ที่มาขอพร มุ่งมั่นในการกระทำเพื่อให้พรสมหวัง มากกว่านั่งรอเพียงโชคชะตา

นอกจากนี้ บรรยากาศรอบๆวัด มีความเงียบสงมและมีการจัดสวนที่สวยงาม เหมาะกับการเก็บภาพบรรยากาศ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ภายในวัดจะโอบล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลและทำให้วัดมีความงดงามไปอีกแบบด้วย

หากใครเป็นสายมูตัวจริงที่ชื่นชอบธรรมชาติ แนะนำให้ไปวัด Gotokuji ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนะ ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน จะได้บรรยากาศที่อบอุ่นโรแมนติก อากาศกำลังเย็นสบายเลย