เดินทาง | ผู้ใหญ่ | จองทัวร์ |
---|---|---|
01 ก.พ. 2568 – 07 ก.พ. 2568 | ฿79,900 | |
08 ก.พ. 2568 – 14 ก.พ. 2568 | ฿75,900 |
วันที่ | โปรแกรมทัวร์ | มื้อเช้า | มื้อเที่ยง | มื้อเย็น | ที่พัก |
---|---|---|---|---|---|
1 | กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) | ❌ | ❌ | ❌ | |
2 | ซัซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) – เมืองอาซาฮิคาวะ – หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาวะ – สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ – เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ | ❌ | ✔️ | ✔️ | SOUNKYO KANKO HOTEL หรือเทียบเท่า 3 ดาว |
3 | ล่องเรือตัดน้ำแข็ง – เมืองอาฮิยาม่า – ห้างสรรพสินค้า AEON MALL | ✔️ | ✔️ | ❌ | ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่า 3 ดาว |
4 | กิจกรรม ลานสกี – เมืองซัปโปโร – ร้าน Duty Free – เทศกาล Sapporo Snow Festival 2025 | ✔️ | ✔️ | ❌ | SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า 3ดาว |
5 | อิสระช้อปปิ้งและท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร | ✔️ | ❌ | ❌ | SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า 3ดาว |
6 | เมืองโอตารุ – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – ศาลเจ้าฮอกไกโด – ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ – พิเศษบุฟเฟ่ต์ร้าน NANDA ดีที่สุดในซัปโปโร | ✔️ | ✔️ | ⭐ | SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า 3ดาว |
7 | ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) | ✔️ | ❌ | ❌ |
20.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG670 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้)
เดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาวะ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะฮอกไกโด รองจากนครซัปโปโระมีร้านค้าที่ขายข้าวและผักที่ปลูกได้ในเมือง และยังมีร้านขายอาหารทะเลตั้งอยู่มากมาย การคมนาคมสมบูรณ์แบบ ทำให้แต่ละปีมีผู้มาท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนจากทั้งในและต่างประเทศ
นำท่านลิ้มลองราเมนต้นตำรับแท้สไตล์ฮอกไกโดที่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Ramen Village) ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว ในประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทราเมนตามสูตรทั้งหมด 4 สูตร ได้แก่ ชิโอะราเมน (ราเมนผสมเกลือในน้ำซุป) โชยุราเมน (ราเมนผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น) มิโซะราเมน ต้นกำเนิดมาจากฮอกไกโด (ผสมเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นในน้ำซุป) ทงคัตซึราเมน (ราเมนกระดูกหมูสีขาวครีม) นอกจากนี้ยังแบ่งตามสูตรของแต่ละท้องถิ่น เช่น ซัปโปโรราเมน, ฮาคาตะราเมน เป็นต้น
ร้านราเมงที่แนะนำ ร้าน Ittetsu-an ร้าน, Tenkin, ร้าน Saijo
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมน (CASH BACK) (มื้อที่ 1)
นำท่านสู่ สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงของเมืองอาซาฮิคาวะ จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้ คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะมีการแสดงขบวนเดินพาเหรดนกเพนกวิน และอีกส่วนหนึ่งก็คือ โดมแก้วขนาดเล็ก จะเป็นโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ทำให้เราสามารถเห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในขั้วโลกอย่างใกล้ชิด ในช่วงฤดูหนาวป็นช่วงที่เหมาะแก่การที่เดินทางมาชมการจัดแสดงของ การเดินพาเหรดเพนกวิน อีกทั้งนี้ยังมีสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวาง นกอินทรี หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่ตอนนี้หาชมได้ยาก เนื่องจากตอนนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว **หมายเหตุ หากไม่สามารถชมขบวนพาเหรดของนกเพนกวินได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ชมการแสดงของสัตว์อื่นๆ แทน
อิสระชม เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival 2025) หรือเทศกาลน้ำแข็งประจำปีของโซอุนเคียวเป็นเทศกาลน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด (จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 09 มีนาคม 2568 ) ท่านจะพบกับการประติมากรรมและสถาปัตยกรรมจากน้ำแข็ง ซึ่งมีหลากหล ายรูปทรงและงานศิลปะต่าง ๆ อีกทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือความแตกต่างของการเกาะตัวของน้ำแข็งที่แกะสลักซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อสร้างสรรค์ประติมากรรมด้วยความปราณีต การชมเทศกาลน้ำแข็งในช่วงกลางวันกับกลางคืนจะมีความแตกต่างกัน ตอนกลางวันน้ำแข็งจะสะท้อนกับแสงแดดเป็นสีขาวอมฟ้า ในช่วงตอนกลางคืนน้ำแข็งสะท้อนแสงไฟสีรุ้ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ที่พัก SOUNKYO KANKO HOTEL หรือเทียบเท่า 3 ดาว♨️ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
นำท่าน ล่องเรือตัดน้ำแข็ง โดยเรือจะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ นำนักท่องเที่ยวไปชมก้อนน้ำแข็งที่ลอยมาจากขั้วโลกเหนือ ในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม หากโชคดีอาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ เช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (STELLER’S SEA EAGLE) และแมวน้ำลายจุด เดิมเรือนี้ใช้เพื่อสำรวจน้ำมันในรัฐอลาสก้า เริ่มนำมาใช้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 การล่องเรือแต่ละรอบใช้เวลา 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง **เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จะระบุประเภทของเรือและท่าเรืออีกครั้งก่อนเดินทาง ทั้งนี้จุดขึ้นเรือตัดน้ำแข็งมี 2 จุดที่สามารถชมได้ คือ ที่จุดมอนเบ็ทสึท่าเรือกะนิงโกะสเตชั่น และที่อะบะชิริท่าเรือออโรร่า เทอร์มินอล ทั้งนี้หากไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนเป็นโปรแกรมอื่นตามความเหมาะสม**
หมายเหตุ : ปริมาณของน้ำแข็งและตารางการล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีไม่สามารถล่องเรือตัดน้ำแข็งได้ อันเกิดจากสภาพภูมิอากาศ หรือ ปัญหาอื่น ๆ ทางบริษัทขออนุญาติปรับโปรแกรมเป็นโปรแกรมอื่นแทนตามความเหมาะสม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
เดินทางสู่เมืองอาซาฮิคาว่า นำท่านช้อปปิ้งที่ ห้างอิออนมอลล์ (AEON Shopping Mall) ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Muji , Sanrio Store , ร้าน100เยน (100 Yen Shop) ,ร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ Matsumoto Kiyoshi , เกมส์เซ็นเตอร์ , ร้านหนังสือ , ร้านรองเท้า ฯลฯ
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก ASAHIKAWA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)
นำท่านเดินทางสู่เมืองมอนเบ็ทสึ ล่องเรือตัดน้ำแข็ง โดยเรือจะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ นำนักท่องเที่ยวไปชมก้อนน้ำแข็งที่ลอยมาจากขั้วโลกเหนือ ในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม หากโชคดีอาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ เช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (STELLER’S SEA EAGLE) และแมวน้ำลายจุด เดิมเรือนี้ใช้เพื่อสำรวจน้ำมันในรัฐอลาสก้า เริ่มนำมาใช้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 การล่องเรือแต่ละรอบใช้เวลา 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง **เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จะระบุประเภทของเรือและท่าเรืออีกครั้งก่อนเดินทาง ทั้งนี้จุดขึ้นเรือตัดน้ำแข็งมี 2 จุดที่สามารถชมได้ คือ ที่จุดมอนเบ็ทสึท่าเรือกะนิงโกะสเตชั่น และที่อะบะชิริท่าเรือออโรร่า เทอร์มินอล ทั้งนี้หากไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนเป็นโปรแกรมอื่นตามความเหมาะสม**
หมายเหตุ : ปริมาณของน้ำแข็งและตารางการล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีไม่สามารถล่องเรือตัดน้ำแข็งได้ อันเกิดจากสภาพภูมิอากาศ หรือ ปัญหาอื่น ๆ ทางบริษัทขออนุญาติปรับโปรแกรมเป็นโปรแกรมอื่นแทนตามความเหมาะสม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5)
เดินทางสู่เมืองโซอุนเคียว ชม เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival 2025) หรือเทศกาลน้ำแข็งประจำปีของโซอุนเคียวเป็นเทศกาลน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด (จัดขึ้นในวันที่ 25 มกราคม – 09 มีนาคม 2568) ท่านจะพบกับการประติมากรรมและสถาปัตยกรรมจากน้ำแข็ง ซึ่งมีหลากหลายรูปทรงและงานศิลปะต่าง ๆ อีกทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือความแตกต่างของการเกาะตัวของน้ำแข็งที่แกะสลักซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อสร้างสรรค์ประติมากรรมด้วยความปราณีต การชมเทศกาลน้ำแข็งในช่วงกลางวันกับกลางคืนจะมีความแตกต่างกัน ตอนกลางวันน้ำแข็งจะสะท้อนกับแสงแดดเป็นสีขาวอมฟ้า ในช่วงตอนกลางคืนน้ำแข็งสะท้อนแสงไฟสีรุ้ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 6)
ที่พัก SOUNKYO ONSEN HOTELหรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว ♨️ ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 7)
ให้ท่านได้อิสระท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมาย รวมไปถึงที่เที่ยวจุด Check in ต่างๆมากมาย อาทิเช่น
นั่งกระเช้าขึ้นสู่ ภูเขาโมอิวะ (Mt.moiwa) เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเมืองซัปโปโร่ โดยภูเขาแห่งนี้ขึ้นชื่อมากกับการเป็นจุดชมวิวเมืองที่ดีงามแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือ ช่วงกลางคืนที่จะสว่างไสวด้วยแสงไฟจากตัวเมือง นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมาชมวิวที่นี้แล้ว ชาวเมืองซัปโปโร่นั้นยังนิยมมาที่นี้ ในฐานะ “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนรัก”
ตลาดปลานิโจ (Nijo Ichiba) ตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในตลาดยอดนิยมของทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ได้มาสัมผัสบรรยากาศตลาดปลาญี่ปุ่น และเลือกชิมอาหารทะเลสดๆ ตามอัธยาศัย
JR TOWER แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้ง เช่น ร้าน BIC CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์, ร้าน 100 เยน, ร้าน UNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นบนชั้น 10 ของตึก ESTA ยังมี พิพิธภัณฑ์ราเมน เป็นแหล่งรวมราเมนชื่อดังทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด มาอยู่รวมกันที่นี่ ให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบราเมนได้ลิ้มรสชิมราเมนจากเมืองต่างๆ ได้อย่างจุใจ
ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ที่เลียนแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านชิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่า 80 ปีและได้ย้ายไปที่ทำการหลังใหม่เป็นตึกใหม่ทันสมัยสูง 10 ชั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังตึกเก่า แต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ.2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2512
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ด้านในของพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของเบียร์ในญี่ปุ่น และกระบวนการขั้นตอนการผลิตเบียร์ ทั้งความละเอียดของข้อมูลและการจัดแสดง ด้านหลังนิทรรศการมีให้ชิมเบียร์ฟรีอีกด้วยถ้าเดินทางเพลินจนเหนื่อยแล้วอยากหาที่นั่งชิลๆ พร้อมเติมพลังและเบียร์ที่ชิมมันน้อยเกินไป ก็สามารถเดินไปใกล้ๆกับตัวพิพิธภัณฑ์ได้ เนื่องจากเป็นสวนเบียร์ซัปโปโร(Sapporo Beer Garden) ประกอบด้วยร้านอาหาร 2 ร้าน คือ Garden Grill และ Genghis Kan Hall มีบรรยากาศสบายๆกับการดื่มเบียร์ และรับประทานบาร์บีคิวเนื้อแกะ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่นิยมมากๆและไม่อยากให้พลาดทีเดียว
อิสระอาหารกลางวันและเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า 3 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
มุ่งหน้าสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร นำท่านชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
นำชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)
นำท่านสู่ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซัปโปโร เป็นศาลเจ้าศาสนาพุทธนิกายชินโตถือเป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1871 ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาญ วันเซ็ตสึบุน พิธีสมรสและอื่น ๆ เป็นต้น ในเขตศาลเจ้าที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีกระรอกป่ามาเยี่ยมทักทาย
นำท่านช้อปปิ้ง ถนนทานุกิโคจิ (Tanukikoji) เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้ คือ การสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาดไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะ เข้าก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ดังอย่างเช่น Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donki ที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจหรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดัง ๆ หลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 10) พิเศษบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ขาปูยักษ์ เนื้อวากิวพรีเมี่ยม หอยเชลล์ ชาชิมิ ของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่ม Soft Drink
ที่พัก SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า ระดับ 3 ดาว
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม หรือ SET BOX (มื้อที่ 11)
นำท่านเช็คเอาท์และตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเสะ
ถึง สนามบินชิโตเสะ ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ
10.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG671 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ